บาปกำเนิด

บาปกำเนิด
คือ บาปที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด Genesisปฐมกาล :บาปกำเนิด Original sin พระเยซูเจ้าทรงทำให้เรา ประสานมิตรภาพระหว่างเรากับพระเป็นเจ้าโมเสส
ขั้นแรก โมเสสอธิบายเรื่องสร้างโลก ถ้าโมเสสจะเล่าอย่างรวบรัดแบบตำราวิทยาศาสตร์ ชาวอิสราเอลคงไม่เข้าใจ ฉะนั้นท่านได้เล่าทำนองเปรียบเทียบเพื่อความเข้าใจ ดังนั้น ท่านก็แน่ใจว่า ชาวอิสราเอลจะเข้าใจในสิ่งสำคัญในเรื่องหนึ่งๆๆ ก่อนเล่า ท่านรำพึงอยู่นาน และพระเป็นเจ้าก็ทรงดลใจให้ท่านเล่าทุกอย่างโดยถูกต้อง ประวัติของโลกแบ่งเป็น 3 ภาค
ภาคแรกคือ การสร้างโลก
ภาคที่สองคือ มนุษย์ได้ทำบาป
ภาคที่สามคือ ยังไม่เสร็จ คือการสร้างโลกใหม่
โมเสสเริ่ม : หะแรกพระเป็นเจ้าทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน เวลานั้นยังมิใช่โลกสวยงามอย่างทุกวันนี้ แต่เป็นก้อนหินมหึมาที่ไม่มีรูปแน่นอน พระเป็นเจ้าตรัสให้มีแสงสว่าง ความสว่างก็มีขึ้น นี่เป็นวันแรก เมื่อโลกยังเป็นแต่ของเหลว พระเป็นเจ้าตรัส ให้น้ำแยกออกเป็นหลายแห่ง และก็ได้เป็นเช่นนั้น วันที่ 2 วันต่อมาพระเป็นเจ้าตรัสว่า “ให้น้ำบนแผ่นดินไปรวมแห่งเดียวกัน” ดังนี้ จึงได้มีทะเลและทวีป พระองค์ตรัสอีกว่า “ให้แผ่นดินเกิดหญ้า ผัก ผลไม้ และทวีแพร่หลาย “ทุกสิ่งก็เป็นมาตามรับสั่ง นี้เป็นวันที่ 3 วันต่อมา พระเป็นเจ้าตรัส “ให้มีดาวต่างๆๆในท้องฟ้า” จึงได้มีดวงอาทิตย์ฉายแสงกลางวัน มีเดือนส่องแสงกลางคืน มีดาวเคราะห์ และดาวอื่นๆๆนับอนันต์
นับเป็นวันที่ 4 วันต่อมา พระเป็นเจ้าตรัส “ให้มีสัตว์ในน้ำและในอากาศ”จึงมีปลาและนกต่างๆๆ ซึ่งแผ่นลูกหลานต่อๆๆไป นับเป็นวันที่ 6 วันต่อมาพระเป็นเจ้าตรัส “ให้แผ่นดินบังเกิดสัตว์บกทุกชนิด” แผ่นดินก็ปกคลุมด้วยสัตว์ต่างๆๆโดยลำดับ โมเสสก็หยุดเล่า
ชาวอิสราเอลเข้าใจดีว่า โลกมิได้สำเร็จขึ้นภายใน 6 วัน วันหนึ่งมี 24ชม แต่ดลกค่อยๆๆสมบูรณ์ขึ้นอย่างช้าๆๆ ที่สำคัญ เขาเข้าใจใจความที่โมเสสเล่าคือ พระเป็นเจ้าทรงสร้างทุกสิ่ง และทรงเป็นเจ้านายของโลก
แล้วโมสสเล่าถึงการสร้างชายหญิงคู่แรก ท่านชี้ให้ชาวอิสเราเอลรู้ว่าพระเป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์ด้วยความรักเป็นพิเศษเพระต้องการให้มนุษย์ดูแลโลก ทรงสร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระองค์ ทรงสร้างกายด้วยดิน แล้วเป่าลมแห่งชีวิต มนุษย์ก็มีชีวิต และอยู่ใน “สถานะพระหรรษทาน” ชายคนแรกนี้มีความสุขอย่างสมบูรณ์ เพราะว่าชายคนนั้นไม่อาจเจริญชีวิตได้โดยลำพังพระเป็นเจ้าก็ประทานหญิงคนหนึ่งให้เป็นเพื่อนพระองค์ประสานเขาทั้งสองให้สนิทกัน เหมือนหนึ่งใจเดียวกายเดียวกัน ชายนั้นคือ อาดัม แปลว่า เกิดจากดิน หญิงชื่อ เอวา แปลว่า แม่ของผู้มีชีวิต ทั้งสองเป็นเจ้านายสิ่งสร้าง ดูแลโลกให้สำเร็จตามแผนที่พระเจ้าทรงจัดไว้ แผ่นดินเป็นดังอุทธยาน
เมื่อคิดถึงทุกสิ่งที่โมเสสเล่า ชาวอิสราเอลก็เข้าใจว่า พระเป็นเจ้าทรงยิ่งใหญ่ มีฤทธิ์ ทรงปัญญา และใจดีหาที่สุดมิได้ โมเสสเสริมว่า “นี่แหละพระเป็นเจ้าแท้แต่ผู้เดียว” ท่านจงออกพระนามโดยเคารพ เรียกพระองค์ซื่อๆๆว่า “อาโดนาย” คือ “พระเป็นเจ้า” ต่อมาเมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จลงมาแล้ว เราจึงจะรู้ว่า พระเป็นเจ้าทรงเป็น “บิดาของเรา”ด้วย

อ้างอิง http://www.baanjomyut.com/library/christianity/06.html

ใส่ความเห็น